แนวคิดและทฤษฏีเกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง
เรียบเรียงโดย
วชิรวัชร
งามละม่อม
Wachirawachr
Ngamlamom
ความต้องการในการพัฒนาตนเอง
เพื่อให้เพิ่มพูนความรู้
ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมต่างๆ
ไปตามวัตถุประสงค์ของแต่ละบุคคล รวมทั้งสามารถดำรงอยู่ในสังคมหรือประสบความสำเร็จในชีวิต
หน้าที่การงาน ควรมีแนวคิดเกี่ยวกับความต้องการในการพัฒนาตนเอง
ความหมายการพัฒนาตนเอง
ปัจจุบันโลกเจริญก้าวหน้ามาก รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
การพัฒนาตนเองจึงเป็นสิ่งสำคัญที่บุคคลต้องพยายามปรับปรุงพัฒนาตนเองให้ก้าวทันกับการเปลี่ยนแปลงนั้นๆ
กรกนก วงศ์พันธุเศรษฐ์ (อ้างถึงในเกศรินทร์ วิริยะอาภรณ์, 2545) ได้กล่าวว่า
การพัฒนาตนเอง หมายถึง การขยายขอบเขตความสามารถในการใช้ความรู้
ความสามารถของบุคคลได้อย่างเต็มที่และประยุกต์ใช้ความรู้ และประสบการณ์ที่ได้รับมา
เพื่อแก้ปัญหาหรือหาข้อยุติปัญหาในสถานการณ์ใหม่ๆ
ที่แตกต่างออกไป ในเรื่องนี้
ที่แตกต่างออกไป ในเรื่องนี้
ศศลักษณ์ ทองปานดี (2551) การพัฒนาตนเอง หมายถึง
การดำเนินการเกี่ยวกับการส่งเสริมบุคคลให้มีความรู้ ความสามารถ มีทักษะการทำงานดีขึ้น
ตลอดจนมีทัศนคติที่ดีในการทำงาน อันจะเป็นผลให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
และการพัฒนาบุคคลควรส่งเสริม และพัฒนาทั้งร่างกาย
อารมณ์ สังคม
และสติปัญญาอย่างทั่วถึงสม่ำเสมอและต่อเนื่อง
โสภณ ช้างกลาง (2550) การพัฒนาตนเองหมายถึง
การดึงเอาศักยภาพของตนเองออกมาแก้ไขปรับเปลี่ยนให้เกิดความเจริญดีขึ้นกว่าอดีต
สร้างความแปลกใหม่ให้กับตนเอง เป็นการสร้างศักยภาพของตนเองให้ดีขึ้น
เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันได้อย่างมีความสุข
เป็นกระบวนการที่จะเพิ่มพูนความรู้
เพื่อยกระดับมาตรฐานหรือความชำนาญในการปฏิบัติงานให้สูงขึ้นและตนเองมีความเจริญก้าวหน้า
ศรีแพร ทวิลาภากุล (2549) การพัฒนาตนเอง
หมายถึง
การปฏิบัติตัวของบุคคลในอันที่จะสร้างเสริมศักยภาพของตนเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ
เป็นผลให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีคุณภาพได้ทุกสถานการณ์แวดล้อม
ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จในชีวิตในการศึกษาครั้งนี้ผู้วิจัยได้ให้ผู้ตอบแบบสอบถามประเมินตนเองว่ามีการพัฒนาตนเองในประเด็นต่างๆ
มากน้อยเพียงใด โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเด็นหลัก คือ
การพัฒนาตนเองโดยตนเอง และการพัฒนาตนเองโดยผู้อื่น
เกศรินทร์ วิริยะอาภรณ์
(2545)
สรุปการพัฒนาตนเองได้ว่า องค์ประกอบของการพัฒนาตนเองอยู่ที่การเตรียมความพร้อมของร่างกายและจิตใจ
พร้อมจะเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงทั้งในตนเอง
และสิ่งแวดล้อมรอบตัว รวมทั้งสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
และสิ่งแวดล้อมรอบตัว รวมทั้งสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
สำหรับพุทธปรัชญานั้น
พระเทพเวที ประยุทธ์ ปยุตโต (2528, อ้างถึงในดำรงศักดิ์
ตอประเสริฐ, 2544) สรุปการพัฒนาตนเองคือ
การศึกษาหรือเรียกว่าไตรสิกขาเป็นการศึกษาอบรมหรือการพัฒนาชีวิตแก่ตนเอง 3 ด้าน คือ ศีล ได้แก่
การพัฒนาพฤติกรรมทางวาจาให้สัมพันธ์ด้วยดีกับสิ่งแวดล้อมทางสังคม ทางวัตถุ
สมาธิ ได้แก่ การฝึกฝนพัฒนาจิตใจที่ให้มีคุณธรรมมีประสิทธิภาพมีความสุข และปัญญา ได้แก่
การพัฒนาความรู้ความเข้าใจเป็นการพัฒนาตนเองโดยการสร้างปัญญา แก้ปัญหา
รู้จักการเรียนรู้ รู้จักคิด มีความอดทน
มีความขยันมีความคิดแยบคายและสภาพจิตใจที่เกื้อกูลต่อการที่จะคิดพร้อมที่จะแสวงหาและทำให้เกิดปัญญา
สามารถดำเนินชีวิตอยู่ด้วยดีไม่มีทุกข์
จากแนวคิดและทฤษฏีเกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง
สรุปได้ว่า การพัฒนาตนเองเพื่อให้มีการเพิ่มพูนความรู้
ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมต่างๆ ไปตามวัตถุประสงค์ของแต่ละบุคคล
รวมทั้งสามารถดำรงตนอยู่ในสังคม หรือประสบความสำเร็จในชีวิต หน้าที่การงาน
ตลอดจนมีทัศนคติที่ดีในการทำงาน
อันเป็นผลให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
การพัฒนาบุคคลควรส่งเสริมพัฒนาทั้งร่างกาย
อารมณ์ สังคม และสติปัญญาอย่างทั่วถึงสม่ำเสมอ และต่อเนื่อง
ความสำคัญของการพัฒนาตนเอง
ในปัจจุบันการศึกษาเรื่องการพัฒนาตนเองเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากสภาพของโลกและเหตุการณ์ในปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว
โดยเฉพาะเมื่อย่างเข้าสู่ยุคของข่าวสารข้อมูล (Information Era) หรือที่เรียกว่าเป็นยุคของโลกคลื่นที่สาม
(Third Wave) ให้เกิดการรวมตัวของทรัพยากรขึ้น
เมื่อโลกอยู่ในสภาวะที่ไร้พรมแดนการแข่งขันเพื่อช่วงชิงทรัพยากรจึงมีมากขึ้นเป็นทวีคูณ
ซึ่งอาจเปรียบได้ว่าเป็นสงครามข่าวสารในด้านข้อมูลความรู้
จะเห็นได้ว่าการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงดำเนินไปโดยไม่พยายามก้าวให้ทันจะกลายเป็นผู้ล้าหลังและเสียประโยชน์ในเวลาอันรวดเร็ว ดังนั้น การพัฒนาตนเองเพื่อให้เรียนรู้ได้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคโลกาภิวัตน์เพื่อความอยู่รอดของชีวิตจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น
(ศศินา ปาละสิงห์, 2547)
องค์ประกอบในการพัฒนาตนเอง
องค์ประกอบในการพัฒนาตนเองด้านต่างๆ
ดังนี้
1. บุคลิกท่าทาง
นับเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่ง เพราะกิริยาท่าทางคือการสื่อสารที่สำคัญซึ่งจะทำให้ผู้อื่นรู้ถึงจิตใจตลอดจนความนึกคิดของบุคคลผู้นั้น
ดังนั้น กริยาท่าทางหรือบุคลิกภาพที่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้สมาชิกกลุ่ม
จึงทำให้ผู้อื่นยกย่องและเชื่อถือไว้วางใจ
2. การพูด
นับเป็นการสื่อสารที่จะทำให้ผู้อื่นปฏิเสธหรือยอมรับในตัวผู้พูดได้เช่นกัน
ซึ่งการพูดในที่นี้รวมทั้งการพูดคุยแบบธรรมดาและการพูดแบบเป็นทางการ
การพูดที่จะประสบความสำเร็จนั้น
มีหลักการเบื้องแรกที่สำคัญ คือการระมัดระวังมิให้คำพูดออกไปเป็นการประทุษร้ายจิตใจผู้ฟัง
มีหลักการเบื้องแรกที่สำคัญ คือการระมัดระวังมิให้คำพูดออกไปเป็นการประทุษร้ายจิตใจผู้ฟัง
3. พัฒนาคุณสมบัติทางด้านมนุษย์สัมพันธ์
ความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นเป็นทางที่จะทำให้ผู้อื่นยอมรับและยกย่อง
บุคคลที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อคนอื่น ย่อมจะทำให้ได้รับความสนับสนุนและร่วมมือ
4. พัฒนาคุณสมบัติเฉพาะตัว
ทำให้ได้รับการยอมรับจากสมาชิกส่วนใหญ่ ดังนั้นนอกจากความรู้ ความสามารถแล้ว
คุณสมบัติเฉพาะตัวบางประการก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะผลักดันให้บุคคลได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย
เป็นผู้มีคุณธรรม ได้แก่ เป็นผู้มีความซื่อสัตย์สุจริตและประพฤติตนอยู่ภายใต้
คุณธรรม ความดี ตามบรรทัดฐานของสังคมนั้นๆ
ทฤษฏีเกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง
มนุษย์ทุกคนมีความต้องการในการพัฒนาตนเอง
ต้องการที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ หรือสร้างแรงจูงใจในการพัฒนาตนเอง เพื่อความก้าวหน้าในอาชีพการงาน เพื่อความมั่นคงในรายได้
ทฤษฏีเกี่ยวกับการพัฒนา
บอยเดล (Boydell,
1985 อ้างถึงใน เกศรินทร์ วิริยะอาภรณ์, 2545) ซึ่งเป็นนักจิตวิทยา ได้กำหนดขอบเขตเนื้อหาสาระสำคัญของทฤษฎีการพัฒนาตนเอง
แบ่งเป็น 4 ด้าน สรุปได้ ดังนี้
1. ด้านสุขภาพ
สิ่งสำคัญในการพัฒนาตนเอง บุคคลจะต้องมีสุขภาพจิตที่ดีและร่างกายจะต้องแข็งแรง
แยกเป็น 3 ระดับ
1.1 ระดับความคิด
ไม่ดื้อรั้นดันทุรัง แต่จะต้องยึดมั่นในความคิดเห็นและความเชื่อที่มั่นคงและต่อเนื่อง
ในเวลาเดียวกันก็สามารถมีชีวิตอยู่กับความคลุมเครือขัดแย้งได้
1.2 ระดับความรู้สึก
รับรู้ ยอมรับความรู้สึก มีความสมดุลทั้งภายในและภายนอกอย่างมั่นคง
1.3 ระดับความมุ่งมั่นคุณค่าของโภชนาการในเรื่องอาหารการกินสุขภาพที่แข็งแรง
มีรูปแบบชีวิตที่ดี
2. ด้านทักษะ
จะต้องการพัฒนาทักษะทางสมอง และการสร้างสรรค์ความคิดในหลายรูปแบบ รวมทั้งความทรงจำ
ความมีเหตุผล ความคิดสร้างสรรค์ การพัฒนาทักษะประกอบด้วย 3
ระดับ คือ
2.1 ระดับความคิด
ทักษะทางใจและการคิดคำนึงที่ดี เช่น ความรู้สึกในเรื่องงาน ความทรงจำที่มีเหตุผล
การสร้างสรรค์ มีความคิดริเริ่ม
2.2 ระดับความรู้สึก
ทักษะด้านสังคม ด้านศิลปะและการแสดงออก
ต้องนำความรู้สึกของตนเข้าร่วมกับแต่ละสถานการณ์ และสามารถถ่ายทอดความรู้สึกได้
2.3
ระดับความมุ่งมั่น มีทักษะทางเทคนิค ทางกายภาพ สามารถกระทำได้อย่างศิลปิน
มิใช่เป็นผู้ที่มีความชำนาญเท่านั้น
3. ด้านการกระทำให้สำเร็จ
การกระทำหรือการปฏิบัติสิ่งต่างๆ
ให้สำเร็จลุล่วงโดยกล้ากระทำด้วยตัวเองโดยไม่ต้องรอคำสั่ง
หรือไม่รอคอยให้เกิดขึ้นเอง มี 3 ระดับ คือ
3.1 ระดับความคิด
มีความสามารถที่จะเลือก และเสียสละได้
3.2 ระดับความรู้สึก
มีความสามารถในการจัดการเปลี่ยนสภาพจากความไม่สมหวัง ไม่เป็นสุขให้เป็นความเข้มแข็ง
3.3 ระดับความมุ่งมั่น
สามารถลงมือริเริ่มการกระทำได้ ไม่รอคอยให้เกิดขึ้นเอง
4. ด้านเอกภาพของตนเอง
เป็นการยอมรับข้อดี และข้อเสียของตนเองด้วยความพอใจในความสามารถและยอมรับข้อบกพร่องของตนเองและพยายามแก้ไขให้ดีที่สุด
มี 3 ระดับ คือ
4.1 ระดับความคิด
มีความยอมรับ รู้จักและเข้าใจตนเอง
4.2 ระดับความรู้สึก
ยอมรับตนเองแม้แต่ความอ่อนแอ และยินดีในความเข้มแข็งของตนเอง
4.3 ระดับความมั่นคง
มีแรงผลักดันตนเอง มีเป้าหมายภายใน มีจุดประสงค์ในชีวิต
กระบวนการในการพัฒนาตนเอง
การพัฒนาตนเองให้ประสบความสำเร็จ
ควรจะมีกระบวนการตามขั้นตอนซึ่ง (สุวรี เที่ยวทัศน์, 2542) ได้กล่าวถึงกระบวนการในการพัฒนาตนเอง สรุปดังนี้
1. สำรวจตัวเอง
การที่คนเราจะประสบความสมหวังหรือไม่ สาเหตุที่สำคัญ คือ
จะต้องมีการสำรวจตนเองเพราะตนเองเป็นผู้กระทำตนเอง
คนบางคนไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตเนื่องจากบุคคลมีจุดอ่อนหรือคุณสมบัติที่ไม่ดี
การที่จะทราบว่า ตนมีคุณสมบัติอย่างไร ควรจะได้รับการสำรวจตนเอง ทั้งนี้
เพื่อที่จะได้ปรับปรุงแก้ไข หรือพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น เพื่อจะได้มีชีวิตที่สมหวังต่อไป
2. การปลูกคุณสมบัติที่ดีงาม
โดยคุณสมบัติของบุคคลสำคัญของโลกเป็นแบบอย่าง ซึ่งคุณสมบัติของบุคคลไม่ใช่สิ่งที่ติดตัวมาแต่เกิด
แต่สามารถเกิดขึ้นได้
3. การปลูกใจตนเอง
เป็นสิ่งสำคัญ เพราะบุคคลที่มีกำลังใจดี ย่อมมุ่งมั่นดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายของชีวิตที่กำหนดไว้
4. การส่งเสริมตนเอง
คือการสร้างกำลังกายที่ดี สร้างกำลังใจให้เข้มแข็ง
และสร้างกำลังความคิดของตนให้เป็นเลิศ
5. การดำเนินการพัฒนาตนเอง
เป็นการลงมือปฏิบัติเพื่อเสริมสร้างตนเองให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ตั้งไว้
6. การประเมินผล
เพื่อจะได้ทราบว่าการดำเนินการพัฒนาตนเองตามที่บุคคลได้ตั้งเป้าหมายไว้ดำเนินการไปได้ผลมากน้อยเพียงไร
จึงจำเป็นต้องอาศัยการวัดผลและการประเมินผล
เอกสารอ้างอิง
เกศรินทร์
วิริยะอาภรณ์. (2545). ความต้องการในการพัฒนาตนเองของข้าราชการกรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ.
วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาบริหารการศึกษา
มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
ดำรงศักดิ์
ตอประเสริฐ. (2544). ความต้องการพัฒนาตนเองของข้าราชการตำรวจระดับชั้นประทวน กองตำรวจสันติบาล
1. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐศาสตร์
มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
พระเทพเวที
ประยุทธ์ ปยุตโต. (2528). การพัฒนาตนเองตามแนวพุทธศาสนา. วารสารวิชาการ
2(4): 37.
ศรีแพร
ทวิลาภากุล. (2549). การพัฒนาตนเองของข้าราชการ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ.
วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
ศศินา
ปาละสิงห์. (2547). ความต้องการในการพัฒนาตนเองของข้าราชการพลเรือน สายสามัญ สังกัด
ศูนย์กลางสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล ตำบลคลองหก
อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี. วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารทั่วไป
มหาวิทยาลัยบูรพา.
ศศลักษณ์
ทองปานดี. (2551). การศึกษาความต้องการพัฒนาตนเองของพนักงานบริษัทพาวเวอร์ปั๊ม จำกัด.
วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
โสภณ
ช้างกลาง. (2550). ความต้องการพัฒนาตนเองของข้าราชการตำรวจตระเวนชายแดน ระดับชั้นประทวน
กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 14. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
สุวรี
เที่ยวทัศน์. (2542). การบริหารทรัพยากรมนุษย์. กรุงเทพฯ: วิญญูชน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น