องค์การภาคประชาชน
เขียนโดย
วชิรวัชร
งามละม่อม
Wachirawachr
Ngamlamom
การปกครองระบอบประชาธิปไตย ประชาชนเป็นผู้กำหนดความต้องการของตน
ผู้บริหารประเทศที่จะเป็นที่ยอมรับของประชาชนต้องกำหนดนโยบายและปฏิบัติไปในแนวทางที่ประชาชนยอมรับได้
สังคมไทยเป็นสังคมพหุนิยม
ที่ประกอบด้วยกลุ่มประชาชนที่มีความแตกต่างกันในรายละเอียดของวัฒนธรรมทั้งที่เหมือนและแตกต่างกัน
ประชาชนภาคเหนือตอนบนมีวัฒนธรรมท้องถิ่นของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นภาษาพูด
ขนบธรรมเนียมประเพณี ทัศนคติ ความคิดความอ่านต่างจากคนไทยในภาคอื่นมากบ้างน้อยบ้าง การพัฒนาสังคมพลเมืองภาคเหนือตอนบน
มีจุดมุ่งหมายเพื่อเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสังคมตามแผนการพัฒนาสังคมของรัฐบาล
ซึ่งหมายถึง การเข้าไปจัดการคน ระเบียบสังคม และวัตถุสิ่งของ ซึ่งคนจะเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ การเมือง
การศาสนา ขนบธรรมเนียมประเพณี
การพัฒนาย่อมได้รับการสนับสนุนจากคนในพื้นที่เมื่อการเปลี่ยนแปลงนั้นสอดคล้องกับคน
ระเบียบสังคม และวัตถุสิ่งของที่ไม่ขัดหรือแย้งกับคน
ระเบียบสังคมและวัตถุสิ่งของของสังคมนั้นๆ
สัญญา สัญญาวิวัฒน์ (2550)
ได้กล่าวว่าการพัฒนานั้นจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม
โดยอธิบายต่อว่าการเปลี่ยนแปลงองค์การทางสังคมจะเป็นการเปลี่ยนแปลงใน 4
ด้าน ได้แก่ หนึ่ง
ขนาดองค์การทางสังคมใหญ่หรือเล็กลง สอง ประเภทขององค์การทางสังคม จากกลุ่มเพื่อนเป็นครอบครัว
หรือชุมชน สาม ลักษณะขององค์การทางสังคม เช่น จากยึดเหนี่ยวหลวมๆ เป็นเกาะกลุ่มกันเหนียวแน่น
จากแบ่งแยกมาเป็นสมานสามัคคี และสี่
สถานภาพและบทบาท จากเคยมีสถานภาพต่ำมาเป็นสถานภาพสูง
จากความเป็นเพื่อนมาเป็นสามีภรรยากัน
จากผู้ใต้บังคับบัญชามาเป็นผู้บังคับบัญชา
การเปลี่ยนแปลงสถานภาพทำให้บทบาทเปลี่ยนไปด้วย ส่วนการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม
จะเปลี่ยนแปลงใน 3 รูปได้แก่ หนึ่งความคิด เช่น ความเชื่อ ความรู้ ค่านิยม อุดมการณ์ สอง พฤติกรรม เช่น บรรทัดฐานทางสังคม ซึ่งอาจแบ่งย่อยเป็น วิถีประชา จารีตประเพณีและกฎหมาย สาม วัตถุ เช่น วัตถุที่เป็นทางวัฒนธรรมคือบ้านเรือน วัดวาอาราม โบสถ์ มัสยิด เครื่องใช้ เครื่องมือ และเครื่องประดับ เป็นต้น
การเปลี่ยนแปลงสถานภาพทำให้บทบาทเปลี่ยนไปด้วย ส่วนการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม
จะเปลี่ยนแปลงใน 3 รูปได้แก่ หนึ่งความคิด เช่น ความเชื่อ ความรู้ ค่านิยม อุดมการณ์ สอง พฤติกรรม เช่น บรรทัดฐานทางสังคม ซึ่งอาจแบ่งย่อยเป็น วิถีประชา จารีตประเพณีและกฎหมาย สาม วัตถุ เช่น วัตถุที่เป็นทางวัฒนธรรมคือบ้านเรือน วัดวาอาราม โบสถ์ มัสยิด เครื่องใช้ เครื่องมือ และเครื่องประดับ เป็นต้น
องค์กรประชาชนในรูปขององค์กรชุมชนจะมีอยู่ 2
ประเภท คือ องค์กรในรูปของคณะกรรมการ เช่นคณะกรรมการพัฒนาเด็กและสตรี คณะกรรมการกลุ่มหนุ่มสาว คณะกรรมการเหมืองฝาย ฯลฯ องค์กรอีกรูปแบบหนึ่งจะอยู่ในรูปของกลุ่ม
เช่นกลุ่มเยาวชน ศูนย์การเรียนรู้หมู่บ้าน
กลุ่มผู้ใช้น้ำ กลุ่มผู้อนุรักษ์ป่า เป็นต้น
องค์กรประชาชนที่ชุมชนตั้งขึ้นส่วนใหญ่มีกิจกรรมเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน
องค์กรประชาชนบางองค์กรจะรวมกันเป็นเครือข่ายจากหมู่บ้าน
เป็นตำบลหรือระหว่างตำบล เช่นกลุ่มฌาปนกิจศพ กลุ่มเหมืองฝาย กลุ่มอาชีพหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ เป็นต้น
องค์กรประชาชนมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาชุมชนของตนเองให้เข้มแข็งโดยมุ่งเน้นการพึ่งตนเอง
ลดการพึ่งพิงจากภายนอก อย่างไรก็ดีองค์กรประชาชนเป็นองค์กรเปิด ต้องเกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมภายนอกไม่ว่าจะเป็นปัจจัยกลไกของภาครัฐ นโยบายของภาครัฐ ระเบียบกฎหมายของรัฐทั้งที่สนับสนุนและเป็นปฏิปักษ์ต่อการพัฒนาชุมชน เป้าหมายการพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็งพึ่งตนเองเนื่องจากประชาชนได้เรียนรู้ที่จะปกป้องและป้องกันตนเองมิให้ปัจจัยภายนอกเข้าไปทำลายชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขา วัฒนธรรมของพวกเขา ดังนั้นในบางพื้นที่ประชาชนจึงรวมตัวกันเป็นองค์กรที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อต่อรองกับอำนาจรัฐ เช่น สหพันธ์ชาวนา สมาคมผู้ปลูกพืชไร่ เป็นต้น
ลดการพึ่งพิงจากภายนอก อย่างไรก็ดีองค์กรประชาชนเป็นองค์กรเปิด ต้องเกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมภายนอกไม่ว่าจะเป็นปัจจัยกลไกของภาครัฐ นโยบายของภาครัฐ ระเบียบกฎหมายของรัฐทั้งที่สนับสนุนและเป็นปฏิปักษ์ต่อการพัฒนาชุมชน เป้าหมายการพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็งพึ่งตนเองเนื่องจากประชาชนได้เรียนรู้ที่จะปกป้องและป้องกันตนเองมิให้ปัจจัยภายนอกเข้าไปทำลายชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขา วัฒนธรรมของพวกเขา ดังนั้นในบางพื้นที่ประชาชนจึงรวมตัวกันเป็นองค์กรที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อต่อรองกับอำนาจรัฐ เช่น สหพันธ์ชาวนา สมาคมผู้ปลูกพืชไร่ เป็นต้น